เครื่องหมายสามารถปกติเป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติของบุคคลที่มีความสามารถทางการกีฬา
รูปแบบของเครื่องหมายสามารถในการกีฬานี้มักจะจัดทำเป็นเสื้อเบลเซอร์
(Blazer) ตัวเสื้อมีสีต่างๆ
กันไปตามที่สถาบันผู้มอบเสื้อสามารถเป็นผู้กำหนด
เสื้อสามารถการกีฬานี้กล่าวกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากทวีปยุโรป
เมื่อมีการส่งนักเรียนไทยไปเล่าเรียนในภาคพื้นยุโรป
นักเรียนไทยหลายคนได้ไปสร้างชื่อทางการกีฬาให้แก่สถาบันการศึกษาที่ตนศึกษาอยู่และได้รับมอบเสื้อสามารถเป็นเกียรติยศ
เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยก็ได้นำกีฬาชนิดต่างๆ
ที่เล่นกันยุโรปเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย
กีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากยุคนั้นมาจนถึงปัจจุบัน
คือ
กีฬาหมากเตะหรือแอสโซซิเอชั่นฟุตบอลที่คนไทยคุ้นเคยกันในชื่อกีฬาฟุตบอล
เมื่อเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ
อยุธยา) ครั้งยังเป็นหลวงไพศาลศิลปสาตร
ได้แปลกฏกติกาการเล่นฟุตบอลเป็นภาษาไทยแล้ว
ก็ได้จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียนขึ้นเป็นครั้งแรหที่ท้องสนามหลวง
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๕๘
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่างๆ
ชิงถ้วยทองหลวงเป็นครั้งแรก
และเมื่อจบการแข่งขันครั้งนั้นแล้วได้โปรดเกล้าฯ
ให้รวบรวมนักกีฬาฟุตบอลจากสโมสรต่างๆ
จัดเป็นคณะฟุตบอลแห่งชาติสยาม
ลงแข่งขันกับชุดฟุตบอลชาติอังกฤษ (ในประเทศไทย) ณ
สนามราชกรีฑาสโมสร เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๔๕๘ แล้วจึงโปรดเกล้าฯ
ให้จัดตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งกรุงสยาม
ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.
๒๔๕๙
 |
หมวกแก๊ปคณะฟุตบอลชาติสยาม
(ภาพจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย) |
ภายหลังการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะฟุตบอลแห่งชาติสยามกับคณะฟุตบอลชาติอังกฤษ
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ แล้ว
ได้พบภาพถ่ายซึ่งแสดงว่าได้โปรดกล้าฯ
ให้จัดสร้างหมวกแก๊ปสีแดงขาว
(รูปทรงเหมือนหมวกลูกเสือสำรองในปัจจบัน)
กระบังหน้าสีแดง
หน้าหมวกปักตราพระมหามงกุฎเหนือลูกฟุตบอลซึ่งพระราชทานเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งกรุงสยามฯ
แก่นักกีฬาที่ลงแข่งขันในนาม
 |
คณะฟุตบอลแห่งชาติสยามที่ลงแข่งขันกับคณะฟุตบอลชาติอังกฤษ
พร้อมด้วยผู้ตัดสิน และพระปรีชานุสาสน์ (ม.ล.ทศทิศ
อิสรเสนา พระยาภะรตราชา) ผู้กำกับเส้น (นั่งขวาสุด)
ที่สโมสรเสือป่า พระราชวังดุสิต พ.ศ. ๒๔๕๙ |
 |
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับฉายพระบรมฉายาลักษณ์
พร้อมด้วยคณะนักฟุตบอลสโมสรกรมเสือป่าม้าหลวงรักษาพระองค์
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ |
คณะฟุตบอลชาติไทย
นอกจากนั้นยังพบภาพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับฉายพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมด้วยคณะนักฟุตบอลสโมสรกรมเสือป้าม้าหลวงรักษาพระองค์
จึงอนุมานได้ว่า
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวน่าจะทรงเป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีเสื้อสามารถการกีฬาในประทศไทยมาตั้งแต่
พ.ศ. ๒๔๕๙
กล่าวสำหรับวชิราวุธวิทยาลัย
ในยุคโรงเรียนมหาดเล็กหลวงไม่พบหลักฐานว่า
มีการจัดสร้างเสื้อสามารถการก๊ฬามอบให้แก่ผู้ใด
แต่ในสมัยที่รวมโรงเรียนเป็นวชิราวุธวิทยาลัยในรัชกาลพระบาท-สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว
มีการจัดสร้างเสื้อสามารถมอบให้นักเรียน
แต่ไม่อาจสืบค้นหลักฐานการสร้างเสื้อสามารถในยุคนี้ได้
แต่เมื่อคาวฉลองอายุโรงเรียนผ่าน ๖ รอบ ณ
โรงแรมเอเซีย เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
นักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย วงศ์ สินธุพันธุ์
อดีตเลขานุการสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ได้กรุณาเรียกผู้เขียนไปพบและบอกว่า
เอ็งถามลุงเรื่องเสื้อสามารถ
วันนี้ลุงเลยใส่มาให้ดู
เสื้อสามารถที่
ลุงวงศ์ สวมมาวันนั้น
เท่าที่จำได้เป็นเสื้อเบลเซอร์สีน้ำเงิน
ที่อกเสื้อข้างซ้ายมีกระเป๋าปักไหมสีเป็นรูปพระมนูแลงสาร
จ่อมาเมื่อคราวฉลอง ๑๐๐ ปีโรงเรียนใน พ.ศ. ๒๕๕๓
ได้สอบถามไปทางทายาทของลุงวงษ์
เพื่อจะขอเสื้อสามารถนั้นมาเก็บรักษาในหอประวัติให้นักเรียนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ได้รับคำตอบว่า
หาไม่พบเพราะมีการย้ายบ้าน
จากนั้นก็ไม่พบหลักฐานเรื่องเสื้อสามารถอีกเลยจนถึงสมัยท่านผู้บังคับการพระยาภะรตราชา
จึงพบว่าโรงเรียนได้จัดให้มีเครื่องหมายสามารถกีฬารักบี้ฟุตบอลมอบให้แก่นักกีฬาทีมโรงเรียน
โดยแบ่งเครื่องหมายสามารถนี้เป็น ๒ ชั้น คือ
 |
เครื่องหมายกึ่งสามารถ |
เครื่องหมายกึ่งสามารถ
เป็นชั้นเริ่มต้นของเครื่องหมายสามารถ
มีลักษณะเป็นตรามหาวชิราวุธภายใต้พระมหามงกุฎสีฟ้าบนแผ่นผ้ารูปกระเป๋าสีน้ำเงินแก่ติดบนเสื้อกีฬา
ตอนล่างดวงตราเป็นอักษรระบุชนิดกีฬาที่ได้รับปักด้วยดิ้นเงิน
กับมีหมวกแก๊ปสีฟ้าสลับน้ำเงิน
กระบังหน้าสีน้ำเงิน
มีตรามหาวชิราวุธภายใต้พระมหามงกุฎปักด้วยดิ้นเงินที่หน้าหมวก
กับกลางหมวกตอนบนมีพู่ไหมเงิน
และมีผ้าพันคอพื้นสีน้ำเงินมีริ้วคู่สีฟ้าอันเป็นสีสำหรับการกีฬาของโรงเรียน
 |
เครื่องหมายสามารถสมบูรณ์ |
เครื่องหมายสามารถสมบูรณ์
เป็นตรามหาวชิราวุธภายใต้พระมหามงกุฎ
ด้านใต้ดวงตราปักชื่อชนิดกัฬาและปี พ.ศ.
ที่ได้รับเครื่องหมายสามารถด้วยดิ้นเงินบนพื้นผ้าสีน้ำเงินสำหรับติดทับบนกระเป๋าเสื้อเบสเซอร์สีน้ำเงินแก่
กับมีผ้าผูกคอ (เนคไท)
พื้นสีน้ำเงินมีริ้วคู่สีฟ้า
ต่อมาเมื่อคณะครูและนักรักบี้ฟุตบอลวชิราวุธวิทยาลัยได้กราบถวายังคมลาไปแข่งขันรักบี้ฟุตบอลประเพณีครั้งที่
๒ กับเดอะมาเลย์คอลเลจ (The Malay College)
ที่สหพันธรัฐมลายา (ปัจจุบันคือ
สหพันธ์มาเลย์เซีย)
และเมื่อเดินทางกลับมาแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้คณะครูและนักกีฬาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลรายงานการเดินทางและผลการแข่งขัน
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๐๔
ในวโรกาสนี้ท่านผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัยได้เป็นผู้แทนวชิราวุธวิทยาลัยทูลเกล้าฯ
ถวายเสื้อกีฬามีลักษณะเป็นเสื้อเบลเซอร์สีขาวนวล
กระเป๋าเสื้อเบื้องซ้ายมีตรามหาวชิราวุธภายใต้พระมหามงกุฎปักดิ้นทอง
ที่ด้านใต้ดวงตราปักไหมทองเป็นอักษรว่า
วชิราวุธวิทยาลัย
แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระบรมราชูปถัมภกวชิราวุธวิทยาลัยเป็นปฐม
จากนั้นได้โปรดเกล้าฯ
พระราชทานเสื้อกีฬาโรงเรียนนี้แก่ครูและนักเรียนเก่าที่ทำประโยชน์แก่การกีฬาของโรงเรียนโดยนักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงเชียงใหม่
พลเอกประภาส จารุเสถียร
กรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
และนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับพระราชทานเป็นคนแรก
จากนั้นได้พระราชทานเสื้อกีฬาโรงเรียนนี้แก่ท่านผู้บังคับการพระยาภะรตราชา
ครูจิต พึ่งประดิษฐ์ ครูอรุณ แสนโกศิก ครูอุดม
รักตประจิตเป็นลำดับมา
 |
นักกีฬาทีมโรงเรียนสวมเสื้อสามารถในพิธีเชิญธงโรงเรียน
ธงกีฬา และธงคณะขึ้นสู่ยอดเสา
ในงานพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลประจำปี |
เมื่อมีการสร้างเสื้อกีฬาโรงเรียนแล้ว
ประกอบกับนักกีฬารักบี้ฟุตบอลของโรงเรียนยังคงครองตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขันประเภทโรงเรียนซึ่งสมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดต่อเนื่องกันมาตั้งแต่
พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยเว้นเฉพาะปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เพียงหนึ่งปี
ในช่วงนี้จึงจัดให้มีเครื่องสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นอีกชนิดหนึ่ง
มีลักษณะเช่นเดียวกับเครื่องหมายสามารถสมบูรณ์
แต่มีเพียงตราติด
 |
แหนบสามารถพิเศษเหนือพิเศษ |
กระเป๋าเสื้อปักดิ้นทองบนผืนผ้าสีขาวนวล
สำหรับเสื้อเบลเซอร์สีขาวนวล
แต่นักกีฬารักบี้ฟุตบอลที่ได้รับเครื่องหมายสามารถพิเศษไปแล้วยังคงแสดงความสามารถให้ปรากฏอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดโรงเรียนจึงต้องเพิ่มเครื่องหมายสามารถพิเศษเหนือพิเศษขึ้นอีกชนิดหนึ่ง
มีลักษณะเป็นแหนบรูปแผงคอนักเรียนซีกเดียวตอนกลางเป็นตรามหาวชิราวุธภายใต้พระมหามงกุฎ
แหนบนี้ใช้เหน็บที่ปกกระเป๋าเสื้อสามารถพิเศษ